มะรุมซี กิฟฟารีน Giffarine Marum-C ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใบมะรุมผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล ตรา กิฟฟารีน

มะรุมซี กิฟฟารีน

 

มะรุมซี กิฟฟารีน Giffarine Marum-C ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใบมะรุมผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล

          มะรุมซี กิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใบมะรุมผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล วัตถุดิบผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และได้มาตรฐาน ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองระบบประกันคุณภาพ GMP สากล มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

          “มะรุม” เป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นอาหารอยู่ในหลายประเทศ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Moringa oleifera Lamk มะรุมมีชื่อเรียกต่างๆ คือ “Drum stick tree” “Horse radish tree” “Kelor tree” ส่วนต่างๆ ที่ใช้รับประทานคือ ใบ ผล ดอก และฝักอ่อน สำหรับในประเทศไทยนิยมใช้ฝักมะรุมปรุงอาหารในรูปของแกงส้ม แกงอ่อม

          การใช้ประโยชน์ทางยา พบว่า เกือบจะทุกๆ ส่วนของต้นมะรุมมีการนำไปใช้ทางยาในแถบเอเชียใต้ ส่วนที่ใช้คือ ราก เปลือกต้น กัม (Gum) ใบ ผล (ฝัก) ดอก เมล็ด และน้ำมันจากเมล็ด (อ้างอิงที่ 1) ในตำรายาพื้นบ้านใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยแก้ไข้ ใช้ส่วนดอกและผลเป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ และแก้ไข้ ใช้ส่วนเมล็ดบดพอกแก้ปวดข้อตามข้อ และแก้ไข้ (อ้างอิงที่ 2) มีรายงานกล่าวถึงการนำพืชนี้มาใช้เป็นยาครอบจักรวาล (Panacea) (อ้างอิงที่ 3)

 

กิฟฟารีน มะรุม-ซี, มะรุมซี กิฟฟารีน, มะรุม กิฟฟารีน

 

มะรุมซี กิฟฟารีน Giffarine Marum-C

มะรุมซี กิฟฟารีน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใบมะรุมผสมวิตามินซี ชนิดแคปซูล ตรา กิฟฟารีน

  • วัตถุดิบผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และได้มาตรฐาน
  • ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองระบบประกันคุณภาพ GMP สากล สำหรับการผลิต ผลิตภัณฑ์เสิรมอาหาร จากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
  • มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล :

  • ใบมะรุมชนิดผง 80.22 % 450 มก.
  • กรดแอสคอร์บิก 2.67% 15 มก. (ให้วิตามินซี 15 มก.)

วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค

เลขทะเบียน อย.  13-1-03440-1-0105

รหัสสินค้า: 41019
ปริมาณสุทธิ : 60.00 แคปซูล
น้ำหนักรวม : 70 กรัม

ราคาปกติ: 280 บาท

>> โปรโมชั่น 2 กล่องขึ้นไปส่งฟรี!! (มีบริการเก็บเงินปลายทางนะคะ)

มะรุมซี กิฟฟารีน

 

 ข้อห้ามสำหรับผู้ที่จะรับประทานมะรุม
❌ เด็ก และสตรีมีครรภ์ เป็นข้อห้ามสำหรับสมุนไพรทุกชนิดอยู่แล้ว

❌ ผู้ป่วยโรคเลือด จีซิกพีดี (G6PD) (โรคเลือดอื่นๆ ไม่ได้ห้าม) โรคนี้จะห้ามรับประทานถั่วปากอ้า ซึ่งในมะรุมมีสารบางชนิดคล้ายในถั่วปากอ้าจึงควรห้ามรับประทานไปด้วย

❌ สตรีที่อาจจะตั้งครรภ์ หรือมีศักยภาพที่จะตั้งครรภ์ เช่น อยู่ในวัยและไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด เป็นต้น เพราะมีงานวิจัยว่า ในปริมาณที่สูงทำให้เกิดการแท้งในหนูทดลองได้

❌ ผู้ป่วยโรค ตับ ตับอักเสบ หรือตับแข็ง เป็นข้อห้ามสำหรับสมุนไพรทุกชนิดอยู่แล้ว

❌ ผู้ที่รับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี เพราะอาจจะมีผลรบกวนระดับยาได้

ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และเป็นแนวทางที่จะช่วยในการตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์มะรุมต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพ ป้องกันหรือรักษาโรค ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบพืชสด แห้ง เป็นแคปซูล หรือ เป็นสารสกัด

 

>>เรื่องน่ารู้ของมะรุม ประโยชน์ของมะรุม คลิ๊ก<<

 

สามารถนำรหัสสมาชิก 48004219 ไปซื้อได้ที่ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Fanpage : WeLoveGiffarine
Email : mai-mee-jai@hotmail.com
โทร. 090-0491594 /Line : @welove.giffarine

สมัครสมาชิกกิฟฟารีนป้อนข้อมูลที่นี่ค่ะ

เอกสารอ้างอิง

1. มะรุม : พืชสมุนไพรหลากประโยชน์, จุลสารข้อมูลสมุนไพร 26(4):2552

2. มะรุม : พืชที่ทุกคนอยากรู้, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.

http://www.medplant.mahidol.ac.th/document/moringa.asp

3. Moringa oleifera (Drumstick) : An Overview. PHCOG REV 2008; 2 (4) : 7-13

4. Energy and micronutrient composition of dietary and medicinal wild plants consumed during drought. Study of rural Fulanl, northeastern Nigeria. Int J Food Sci Nutr. 2000 May;51(3): 195-208.

5. Nutrient content of the edible leaves of seven wild plandts from Niger. Plant Foods Hum Nutr. 1998;53(1): 57-69.

6. Moringa oleifera: a food plant with multiple medicinal uses. Phytother Res. 2007 Jan;21(1):17-25.

7. Evaluation of the polyphenol content and antiosidant properties of methanol extracts of the leaves, stem, and root barks of Moringa oleifera Lam. J Med Food. 2010 Jun;13(3):710-6.

8. การศึกษาพิษเฉียบพลันของใบมะรุม, สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์